Pages

Sep 10, 2008

สมการเมือง

ทำเนียบรัฐบาลคือดินแดนศักดิสิทธิ์
เอาไว้ต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง
คนที่คอยเสนอหน้าต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง
ก็คือนักการเมือง

ยังจำได้ไหมว่า
นักการเมืองมาจากการเลือกตั้ง
เข้าคูหา ประชาชนกาเลือกใคร
คนนั้นได้เป็นตัวแทนประชาชน
ไปทำงานในทำเนียบรัฐบาล

แล้วอยู่ดีๆ นักการเมือง
มันก็กลายเป็นคนศักดิ์สิทธิ์
ได้รับอนุญาติให้ไปทำงานในดินแดนศักสิทธิ์
ศักดิ์สิทธิ์จนประชาชนที่เคยเสียค่ำน้ำมัน
ออกไปเข้าคูหาลงคะแนนเสียง
ก็ย่างกรายเข้าไปไม่ได้ ต่อว่ามันไม่ได้

วันนี้ก็เหมือนกัน พูดมาได้
"ผมเป็นตัวแทนของประชาธิปไตย
ไม่ว่าจะยังไง อำนาจก็อยู่กับผม
ผมจะทำอะไรมันก็เป็นสิทธิ์ของนายกอย่างผม"

ศาลตัดสินยังไง ไม่สน
ตามระเบียบวาระห่าเหว พวกพ้องพรรคผม
ก็เลือกผมกลับมานั่งใหม่ได้้

กติกาห่าอะไรวะ ตัดสินคนว่าไม่เหมาะสมจะเป็นนายกไปแล้ว
แต่ไอ้พวกที่บอกว่าเป็นตัวแทนประชาชน หลงว่าตัวเองมีอำนาจ
ใช้ไอ้กติกาบ้าบอ ที่ตั้งกันขึ้นมาเอง ตีความกฏหมายด้วยหัวใจมารหวงอำนาจ
ว่าสามารถเลือกคนที่ถูกตัดสินว่าไม่เหมาะสมจะทำหน้าที่นายก
กลับมาเป็นนายกได้อีก

....ครั้งหน้ามึงอย่ามายกมือไหว้ขอคะแนนเสียงจากประชาชนอีกนะ
เพราะพอได้ไป ท่านก็เป็นเทวดา ชี้ใครถูกผิดได้ตาม "กติกา" ของพวกมึง
โดยไม่ต้องสนใจตรรกะของความดีกันเลย

*เขียนแบบไม่ร่าง เลือกข้าง และเกลียดมัน*

-----------------------------------------------------------
เฮ้อ...ชักของขึ้น พอตั้งสติซักหน่อย
ไปอ่านบทความของ เปลวสีเงิน ก็ช่วยผ่อนอารมณ์ร้อนๆ ลงเป็นอุ่นๆ ได้บ้าง

...เราจะแสวงหาประโยชน์สูงสุดให้กับสังคมชาติจาก "คำวินิจฉัย" ศาลรัฐธรรมนูญครั้งนี้ได้
โดยพวกเราทุกคน "ถอนตัวเอง" ออกจากความคิดเดิมๆ-ด้วยชิน จากการปักใจยึดรูปแบบเดิมๆ-ด้วยถูกครอบคิด
แล้วใช้หลักผสมผสานมองหาทางไป-เป็นทางใหม่ให้กับสังคมชาติ เช่นนี้จะไม่ดีกว่าย่ำอยู่กับประชาธิปไตยที่ดูเหมือน
"คุ้นหน้า" แต่ว่าจิตใจทั้งผู้ใช้และประชาชนผู้ถูกใช้ "เข้าไม่ถึง"
และผสมผสานเป็นงาน "ปฏิรูปการเมืองใหม่" เยี่ยงนี้จะไม่ดีกว่าหรือ?
ลงทุนกันมาแล้วมากมาย บ้านเมืองวุ่นวาย ๒-๓ ปีแล้ว สุดท้ายก็ไม่ไปไหน วนไป-วนมา อยู่แค่ "ยุบสภาฯ-ลาออก" แล้วก็แบ่งค่าย-แยกข้างตีกันหัวร้างข้างแตกเป็นวัฏจักรยาจกอยู่อย่างนี้
ปฏิรูปการเมืองด้วยการตั้ง "รัฐบาลแห่งชาติ-รัฐสภาแห่งชาติ" ขึ้นดูสักทีเป็นไร ไหนๆ ประเทศไทยก็ไม่อาจขาดทั้งคนพันธมิตรฯ ไม่อาจขาดทั้งคน นปก.เพราะล้วนแล้วก็คนไทยด้วยกัน
ก็มาร่วม "ได้-เสีย" ด้วยกัน ด้วยระบบรัฐบาลแห่งชาตินี้ ลองดูสักทีจะเป็นไรไป เพราะในภาวะนี้ ไม่ต้องไปกางทฤษฎี-กางตำราฝรั่งอังกฤษที่ไหนมาใช้ คิดสูตรไทยนี่แหละใช้แก้ปัญหาไทย
อโหสิ-อภัย เลิกให้คนตีกัน มองหน้า-สบตา แล้วยิ้มให้กันได้ ถ้าทำสิ่งนี้ให้เกิดได้ ระบบ-ระบอบจะเรียกว่าอะไรก็ช่างหัวมันเถอะ ขอเพียงทำให้พี่น้องไทยไปเหนือ-ล่องใต้ "ไทยด้วยกัน" เท่านั้นพอแล้ว
ใครมาเป็นนายกฯ ใครมาเป็นรัฐบาลนั่นน่ะ ไม่ใช่ห้ามโกง-ห้ามกิน!
โกงเหอะ กินเหอะ พ่อทูนหัว..แต่โกงให้น้อยหน่อย กินให้น้อยหน่อย กินพอประดับเกียรติ ฯพณฯ ท่าน แค่นั้นคนไทยถือว่า "โกงเพื่อชาติ" เอาไปเลย พ่อจำปี-แม่จำปาหอม
แต่อย่าถึงขนาด ขายชาติ-ขายแผ่นดิน บั่นทอนคลอนระบบรัฐ ผูกขาดทรัพยากร ชักน้ำเข้าลึก-ชักศึกเข้าบ้าน เหิมเกริม-คิดการณ์ใหญ่ อย่างที่เป็นไป ไทยฆ่าไทย ส่วนหนึ่งก็เพราะเหตุนี้แหละ!
๒๕๕๑ ปีที่ผ่านมา ทุกกฎ-ทุกกติกาในโลกใบนี้ ถูกลบล้างด้วยการปฏิวัติใหม่-คิดใหม่ทยอยไล่กันมาตลอด นอกจากคำสอนองค์พุทธะแล้ว ไม่มีสูตรไหน-ทฤษฎีไหนที่ไม่ถูกการ "ค้นพบใหม่" ลบไล่หลังมาเรื่อยๆ และไม่มีอะไรยืนยันได้ว่าเป็น
"สัจจะยุติ" สังคมประชาธิปไตยไทยก็เช่นนั้น ถึงวันที่ต้อง "ปฏิรูปการเมือง" กันแล้ว พวกเราต้องช่วยกันเอาบ่าแบกล้อ ชักลากประเทศให้พ้นวิบากนี้ไปให้จงได้ ผมรับประกัน "ประเทศไทย" ของเราไปได้ไกล..ล้านเปอร์เซ็นต์.

JAKKSKY
10 กันยายน 2551

No comments: